It's time....
Sunday, February 26, 2012
Wednesday, February 22, 2012
first try Egyptian food
เมื่อวานได้รับเชิญ (พูดเหมือนเป็นบุคคลสำคัญ) ไปร่วมทานอาหารเย็นที่บ้านของมนเอ็ม เพื่อนชาวอียิปต์ในเเลบ เราเคยเจอภรรยาของมนเอ็มเเล้ว มนเอ็มเล่าให้ฟังว่าภรรยาเหงาต้องการมีเืพื่อนที่นี่บ้าง ครั้งเเรกที่เจอมนเอ็มเลี้ยงข้าวเด็ก ๆ ในเเลบ (เชิญเเต่เด็กหญิง เพราะมนเอ็มหวงภรรยามาก)
เมื่อวานเป็นครั้งที่สองที่ได้เจอครอบครัวของมนเอ็ม คราวนี้ก็ไปกันเเต่เด็กหญิงเหมือนเคย ครั้งนี้เป็นครั้งเเรกที่จะได้ลองอาหารอียิปต์ เราก็นึกไม่ออกว่าหน้าตาจะเป็นยังไง เเต่ที่รู้คือเรากลัวอาหารเเขกมาก ครั้งเเรกที่ได้ลองเรามึนหัวไปวันเต็ม ๆ ก่อนไปหม่ำที่บ้านมนเอ็มเราเลยเตรียมกะเพาะเอาไว้ว่าต้องเจอไรบ้าง
พอไปถึงที่บ้าน ถึงกับเกิดอาการตะลึง อาหารเยอะมาก เหมือนจะมาทานกันเกือบสิบคนเเต่หลัก ๆ มีกันอยู่เเค่สี่คน เด็กญี่ปุ่นสองคนที่ไปด้วย น้องโนกะน้องมี่เห็นเเล้วถึงกับอุทานความเยอะของอาหาร เเละตกใจกะไก่ตัว เอิ่ม ที่ญี่ปุ่นเนี่ยไม่มีไก่เป็นตัวขาย น้องโนถึงกับถามว่าอันนี้ตัวไร ฮาาาา
ตอนที่ภรรยามนเอ็มสาละวนกับการทำอาหาร เราก็ต้องเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นให้ทั้งเจ้าตัวเล็กสองคน คนพี่ตัวโตหน่อยอายุประมาณสี่ขวบ ก็สาละวนหานู่นนี่มาให้ ชวนคุยกะเราเรื่อยเปื่อย จนภรรยามนเอ็มถามเราว่า คุยกันรู้เรื่องด้วยเหรอ เพราะน้องพูดออกมาเป็นภาษาอารบิคตลอด เเต่การสื่อสาารกะเด็กสำหรับเราง่ายจะตาย เพราะเราใช้ภาษามือในการสื่อสารกัน จนน้องยุ่นสองคนถึงกับขำเรา เเละบอกว่าที่น้องชอบมาเล่นกะเราเพราะว่าเราเหมือนเด็ก (ติงต๊องส์) เเถมน้องอ่ะเหมือนตัวโคลนเราเปี๊ยบ (ขอบอกก่อนว่าน้องเเสบมาก) สรุปชมชั้นใช่ไหม ฮ่า ฮ่า
พอตอนทานอาหาร เราอึ้งว่าจะหม่ำไก่กันยังไง อยู่ ๆ ภรรยามนเอ็มก็เอามีดมาเเบ่งครึ่งตัวเเล้วก็เเบ่งใส่จานต่อคนต่อครึ่งตัว สรุปว่าชั้นกลา่ยเป็นตัวกินไก่ไปเเล้วววววว
ตอนเเรกที่เกรง ๆ อาหารอียิปต์ สรุปว่าไม่มีปัญหา เเหม่มซังหม่ำได้หมด ข้อดีของการมา่อยู่ต่างบ้านต่างเเดนเเบบจนจน ทำให้การเลือกกินต่ำลง ขอให้เห็นเป็นอาหารก็กินได้หมดล่ะ
เเต่จานที่ทำเราอึ้งไปพักก็คงเป็นเเกง เพราะว่าคำเเรกที่ตักเข้าไป กลิ่นเเขกขึ้นสมองเราเลยทีเดียว สรุปว่าจานนั้นเราเเตะครั้งเดียวไม่ลองต่อ เจ้าตัวเล็กก็คะยั้นคะยอให้เรากินจริง จนต้องโกหกเด็กว่าอิ่ม เเต่พอน้องเลิกสนใจเราก็จกอย่างอื่นต่อ น้องคงงงว่าเราทำไรนิ ไหนบอกว่าอิ่ม เหอ เหอ
เเต่ ๆๆๆๆ ยังไม่หมดเท่านั้น พอเราจัดการอาหารกันไปได้ซักพัก ชอคโกเเลตเค้กก้อนโตก็มากองตรงหน้า เเถมเราได้เยอะสุดอีกต่างหาก
งานนี้สรุปอาหารอร่อยกว่าที่เรากลัวไว้เยอะ เเต่ ๆๆๆๆๆ เเหม่มซังก็กลับมาอะตอมมิกบอมบ์ที่บ้านคร้าบบบบ
เมื่อวานเป็นครั้งที่สองที่ได้เจอครอบครัวของมนเอ็ม คราวนี้ก็ไปกันเเต่เด็กหญิงเหมือนเคย ครั้งนี้เป็นครั้งเเรกที่จะได้ลองอาหารอียิปต์ เราก็นึกไม่ออกว่าหน้าตาจะเป็นยังไง เเต่ที่รู้คือเรากลัวอาหารเเขกมาก ครั้งเเรกที่ได้ลองเรามึนหัวไปวันเต็ม ๆ ก่อนไปหม่ำที่บ้านมนเอ็มเราเลยเตรียมกะเพาะเอาไว้ว่าต้องเจอไรบ้าง
พอไปถึงที่บ้าน ถึงกับเกิดอาการตะลึง อาหารเยอะมาก เหมือนจะมาทานกันเกือบสิบคนเเต่หลัก ๆ มีกันอยู่เเค่สี่คน เด็กญี่ปุ่นสองคนที่ไปด้วย น้องโนกะน้องมี่เห็นเเล้วถึงกับอุทานความเยอะของอาหาร เเละตกใจกะไก่ตัว เอิ่ม ที่ญี่ปุ่นเนี่ยไม่มีไก่เป็นตัวขาย น้องโนถึงกับถามว่าอันนี้ตัวไร ฮาาาา
ตอนที่ภรรยามนเอ็มสาละวนกับการทำอาหาร เราก็ต้องเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นให้ทั้งเจ้าตัวเล็กสองคน คนพี่ตัวโตหน่อยอายุประมาณสี่ขวบ ก็สาละวนหานู่นนี่มาให้ ชวนคุยกะเราเรื่อยเปื่อย จนภรรยามนเอ็มถามเราว่า คุยกันรู้เรื่องด้วยเหรอ เพราะน้องพูดออกมาเป็นภาษาอารบิคตลอด เเต่การสื่อสาารกะเด็กสำหรับเราง่ายจะตาย เพราะเราใช้ภาษามือในการสื่อสารกัน จนน้องยุ่นสองคนถึงกับขำเรา เเละบอกว่าที่น้องชอบมาเล่นกะเราเพราะว่าเราเหมือนเด็ก (ติงต๊องส์) เเถมน้องอ่ะเหมือนตัวโคลนเราเปี๊ยบ (ขอบอกก่อนว่าน้องเเสบมาก) สรุปชมชั้นใช่ไหม ฮ่า ฮ่า
พอตอนทานอาหาร เราอึ้งว่าจะหม่ำไก่กันยังไง อยู่ ๆ ภรรยามนเอ็มก็เอามีดมาเเบ่งครึ่งตัวเเล้วก็เเบ่งใส่จานต่อคนต่อครึ่งตัว สรุปว่าชั้นกลา่ยเป็นตัวกินไก่ไปเเล้วววววว
ตอนเเรกที่เกรง ๆ อาหารอียิปต์ สรุปว่าไม่มีปัญหา เเหม่มซังหม่ำได้หมด ข้อดีของการมา่อยู่ต่างบ้านต่างเเดนเเบบจนจน ทำให้การเลือกกินต่ำลง ขอให้เห็นเป็นอาหารก็กินได้หมดล่ะ
เเต่จานที่ทำเราอึ้งไปพักก็คงเป็นเเกง เพราะว่าคำเเรกที่ตักเข้าไป กลิ่นเเขกขึ้นสมองเราเลยทีเดียว สรุปว่าจานนั้นเราเเตะครั้งเดียวไม่ลองต่อ เจ้าตัวเล็กก็คะยั้นคะยอให้เรากินจริง จนต้องโกหกเด็กว่าอิ่ม เเต่พอน้องเลิกสนใจเราก็จกอย่างอื่นต่อ น้องคงงงว่าเราทำไรนิ ไหนบอกว่าอิ่ม เหอ เหอ
เเต่ ๆๆๆๆ ยังไม่หมดเท่านั้น พอเราจัดการอาหารกันไปได้ซักพัก ชอคโกเเลตเค้กก้อนโตก็มากองตรงหน้า เเถมเราได้เยอะสุดอีกต่างหาก
งานนี้สรุปอาหารอร่อยกว่าที่เรากลัวไว้เยอะ เเต่ ๆๆๆๆๆ เเหม่มซังก็กลับมาอะตอมมิกบอมบ์ที่บ้านคร้าบบบบ
Monday, February 20, 2012
มาหม่ำชาบู ชาบู
ถือว่าเป็นฤกษ์ดีหลังจากเจ๊ฝ้ายกลับมาจากไทย เราเลยถือโอกาสไปหม่ำชาบูกัน ที่ถือว่าฤกษ์ดีเพราะว่าร้านนี้ไกลมาก ถ้าปั่นจักรยานไปกันอาจมีสิทธิ์หนาวตายระหว่างทางได้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรอเจ๊ฝ้ายผู้ซึ่งมีรถเเละเป็นที่พึ่งน้อง ๆ ยามยาก
ร้านชาบูนี้เป็นร้านในตำนานเพราะว่าถูก เราเคยทานร้านชาบูเเถวบ้านต่อหัวราคาสองพันเยน เเต่ว่าทานได้เเต่ชาบูมีให้เลือกเเค่หมูกับผัก เเต่ว่าร้านนี้สองพันสามร้อยเยนทางได้ตั้งเเต่ทางเข้ายันทางออก เพราะว่าระหว่างทางตั้งเเต่เดินเข้าไป ก็จะมีไลน์อาหารยาวเลย คุ้มจริง ๆ ราคาสองพันสามร้อยเยนรวมเนื้อวัวด้วย ถ้าอยากทานปูก็ประมาณสามพันเยน ร้านนี้คุ้มสุด ๆ ชอบมาก ร้านชื่อว่า Hanasho
ร้านชาบูนี้เป็นร้านในตำนานเพราะว่าถูก เราเคยทานร้านชาบูเเถวบ้านต่อหัวราคาสองพันเยน เเต่ว่าทานได้เเต่ชาบูมีให้เลือกเเค่หมูกับผัก เเต่ว่าร้านนี้สองพันสามร้อยเยนทางได้ตั้งเเต่ทางเข้ายันทางออก เพราะว่าระหว่างทางตั้งเเต่เดินเข้าไป ก็จะมีไลน์อาหารยาวเลย คุ้มจริง ๆ ราคาสองพันสามร้อยเยนรวมเนื้อวัวด้วย ถ้าอยากทานปูก็ประมาณสามพันเยน ร้านนี้คุ้มสุด ๆ ชอบมาก ร้านชื่อว่า Hanasho
Thursday, February 16, 2012
Happy v day
V day is a normal day. There is nothing more special because everyday is special day for me. I just ask my friend to hang out and surprise them with my special v chocolate cake.
Bake with love..
Monday, February 13, 2012
Girl with dragon tattoo
เมื่อวานไปดูหนังที่ฟูจิเเกรนด์ ห้างใหญ่สุดของฮิกาชิฮิโรชิม่า เราเล็งว่าอยากดู Girl with dragon tattoo มานานล่ะ รอเเล้วรอเล่าจนหนังออกจากไทยไปนานโข กว่าหนังจะเข้าที่ญีุ่ปุ่น เหตุที่อยากดูเพราะว่าเรื่องนี้วิจารณ์เอาไว้ดีเหลือเกิน (เชื่อสื่อตลอด) เรื่องนี้จึงอยู่ในลิสต์ที่ต้องมาดูที่โรงหนังให้ได้
ก่อนดูหนังก็มานั่งรอเล่นถ่ายรูปกันเล็กน้อย วันนี้ไปดูหนังกับพี่ขวัญ เเละบาส
พอถ่ายรูปทีไรพี่ขวัญมีอยู่หน้าเดียวตลอด เลยต้องทำการบังคับเเละขืนใจให้ยิ้มกันเล็กน้อย
ก่อนดูหนังก็มานั่งรอเล่นถ่ายรูปกันเล็กน้อย วันนี้ไปดูหนังกับพี่ขวัญ เเละบาส
พอถ่ายรูปทีไรพี่ขวัญมีอยู่หน้าเดียวตลอด เลยต้องทำการบังคับเเละขืนใจให้ยิ้มกันเล็กน้อย
ก่อนดูหนังเจอดาราดังด้วย ไปเเย่งถ่ายกะเด็ก ๆ มา
โดยรวมชอบนะ เป็นหนังที่ดูไม่ยาก เเต่ถ้าจะให้ดีก็อ่านเรื่องย่อมาบ้างก็คงจะดี (ยืมหนังสือเพื่อนโยมาอ่านต่อ ดูดิว่าเมื่อไหร่จะอ่านจบ) ตอนดูหนังไปได้ประมาณเกือบครึ่งเรื่อง เราถึงบางอ้อว่า ช้านเคยดูตอนนี้ที่ทีวีมาเเล้วอ่ะ คือดูภาคที่เป็นหนังสวีเดน เเล้วทีนี้นั่ง ๆ ดูไปไม่รู้เรื่องเพราะเป็นภาษาสวีเดน ซับภาษาญี่ปุ่น เเม่เจ้า เลยเลิกดูกระทันหัน เเต่มีอยู่ตอนนึงที่เป็นไคลเเมกซ์ของเรื่อง เเล้วเราจำติดตาได้ดี พอมาดูในโรงเลยจำได้
ก่อนกลับบ้านเเวะหม่ำไอติมชาเขียว ที่เค้าบอกว่าอร่อยมาก เเละดังมากด้วย (เชื่อเค้าเหมือนเคย) เเต่พอได้ชิมเท่านั้น โอ๊ยยย หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม เเต่รสชาด เอิ่ม เหมือนกินชาเขียวเข้ม ๆ ใส่น้ำตาลเหมือนกลัวเป็นเบาหวานเลยอ่ะ เหอ เหอ
ปอลิง เมื่อวานทำสตอเบอรี่ทาร์ตด้วย เหนื่อยมาก
Sunday, February 12, 2012
สาเหตุจากการนั่งจัดบ้านจากบล๊อคที่เเล้ว สายตาพลันเหลือบไปเห็นสิ่งของต้องสงสัย ก๊ากกกกก ชั้นได้สิ่งนี้เเต่ใดมา นั่งนึกย้อนนึกก็พบว่า สิ่งของนี้่ผ่านมาได้เป็นเพลาเืเอบสองเดือนเเล้ว เเต่ก็ยังไม่ได้เเกะออกมาใช้ซะที
นิสัยเสียโดยส่วนตัว คือ เป็นโรคนักวางเเผน พอเห็นว่าอะไรจะหมด ต่อมกระตุกชั้นต้องตุน ๆๆๆ สุดท้ายของเก่ายังไม่หมด ของใหม่ยังไม่ได้ใช้ เเล้วเงินช้านมันหายไปไหนหมด
เจ้าอายครีมกล่องนี้ก็เช่นเดียวกัน ซื้อตอนไปเกาหลีเมื่อปีใหม่ เพราะสมองสั่งการทันทีหลังจากเปิดเเคตตาล๊อคบนเครื่อง ว่าอายครีมชั้นจะหมดเเล้ว พอซื้อกลับมาบ้าน กรี๊ดดดด อายครีมทำไมมันมีเต็มอย่างนี้ ของเก่าก็ยังใช้ไม่หมด ปลอบใจตัวเองเล็กน้อยโดยการโกยอันที่ไม่ใช้่กวาดลงไปทิ้ง เเล้วก็ปลอบใจตัวเองรอบสองว่ามันถู๊ก ถูก เเถมดี ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดใช้ ก็เค้ารีวิวมาว่าดีนี่ยะ (คิดเอาเองตามเคย) จนวันนี้ก็ยังไม่ได้ใช้ เพราะว่าของเก่ายังไม่หมด (เเต่เงินหมดไปเเล้ว เจี๊ยก)
ปอลิง เกิดเป็นผู้หญิงเนี่ยมันลำบากจริง ๆ นะคะ
Wednesday, February 8, 2012
Forgot thing
นั่งเก็บบ้านเมื่อวานเจอหนังสือพิมพ์พร้อมมาร์กเกอร์ตัวชมพู เเว๊กกกกก สัมภาษณ์ของเราสมัยที่เกิดเเผ่นดินไหวเเละซึนามิเมื่อต้นปีที่เเล้ว จำได้ลาง ๆ ว่าที่มหาลัยมีสัมมนา เราก็ไปเข้าร่วม ไม่รู้ไปสะดุดตานักข่าวได้ไง มาสัมภาษณ์เราว่ากลัวไหม จ๊าก ไม่กลัวก็บ้าเเว้วววว เเต่ด้วยดีกรีนางเอก หันไปยิ้มหวานพลางตอบว่าไม่กลัวเเล้วค่ะ เเต่ตอนเเรกกลัวนะคะ (จริง ๆ กลัวตลอดล่ะ) พอมาฟังสัมมนาก็เบาใจ (ซะเมื่อไหร่ล่ะ) ไหวอีกทีหนีกลับบ้านเเน่
พอเช้าอีกวัน ข่าวลงหนังสือพิมพ์มีชื่อเราด้วย เซนเซท่าทางจะอ่านเเล้วยิ้มหวานเพราะว่ามีชื่อเราด้วยถึงขั้นตัดเเปะเอามาวางให้บนโต๊ะเลยทีเดียว มายก๊อด โชคดีที่ตอบดีนะคะ ไม่งั้นอาจารย์มีเคือง
Monday, February 6, 2012
Mc i'm loving your toy
เมื่อวานไปหม่ำเเมคมา (หลังจากกินเบนโตะกล่องใหญ่ เอิ๊กกกก)
โปรโมชั่นชุดเเฮปปี้ เเถมของเล่น ถูกใจเรายิ่งนัก
Mc i'm loving your toy
Sunday, February 5, 2012
white snow with the coldest day in this winter
Love snow and color
It's - 11 degree for this night
View from my workplace
Mr. little snow man
On the way back home
it's time for one and second party
เสาร์ที่ผ่านมามีปาร์ตี้ซ้อนกันสองงาน งานเเรกเป็นงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ เเละวันประกาศลาตำเเหน่งประธานเมืองของเรา ส่วนอีกงานนัดเพื่อนโยเอาไว้ช่วงเช้า ขอเรียกว่าเป็นปาร์ตี้เปิดบ้าน (ซึ่งเราไปมาจนเบื่อ) เเต่เปิดบ้านต้อนรับสองสาว น้องโตโยต้า เเละมี่จัง
เรารีเควสเน้นผัก เพราะว่าเพื่อนโยบอกว่าอาหารหลักเป็นข้าวราดกะทิ เอิ่ม นึกภาพไม่ออกว่าจะกินเป็นอาหารหลักยังไง เพราะที่เคยกินที่ไทยก็มีเเต่อาหารหวานนี่หน่า จริง ๆ เสาร์เช้าเราต้องเข้าสัมมนาของที่เเลบก่อน เเต่ดันตื่นสาย เพราะว่ากว่าเราจะได้กลับบ้านก็เกือบตีหนึ่ง เลยโดดซะเลย พอสองสาวที่มาสมทบบ้านเพื่อนโยทีหลัง บ่นเราซะหูตึงว่าไม่ยอมเข้าฟังเค้าสัมมนา ฮาาาาา
อาหารอร่อยใช้ได้ นั่งกินไปพลางฟังเสียงมิอา (พี่สาวเพื่อนโย) เเละ น้องโตโยต้า พูดไม่หยุด เราก็เลยเล็มน้ำพริกที่มิอาบอกว่าสูตรเด็ดไปเรื่อย หาได้รู้ไม่ว่านรกจะมาเยือน จ๊ากกกก กินยังไม่ทันไรเป็นเีรื่อง เเขกตี้ทั้งวัน งานเข้าเลยคร้าบ เพราะว่าตอนเย็นเรามีปาร์ตี้ที่สองที่ร้านอาหารไทยซะด้วย
ส่วนขนมหวานตบท้าย เหมือนทับทิมกรอบที่ไทยเลย งานนี้เพื่อนโยลงมือทำเองทั้งหมด อร่อยอ่ะ
มิอาเห็นท่าทางเราจะไม่ไหว เลยขับรถมาส่งที่ร้านอาหารไทย เเต่ตอนนั้นเราหมดเเรงเเล้วจริง ๆ เหอ เหอ
ปาร์ตี้ที่สองตอนเย็นเป็นปาร์ตี้เลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ อาหารที่เราสั่งก็มีเเต่เผ็ด ๆ ส่วนของเด็ดเป็นส้มตำปลาร้า เราหม่ำไม่ได้อ่ะ เพราะว่าท้องไม่เป็นใจเลยจริง ๆ สรุปคืองานนี้ได้เเต่มองตาปริบ ๆ เล็ม ๆ ข้าวกินกะผัดผักเเละไข่เจียว เง้อออออ
เรารีเควสเน้นผัก เพราะว่าเพื่อนโยบอกว่าอาหารหลักเป็นข้าวราดกะทิ เอิ่ม นึกภาพไม่ออกว่าจะกินเป็นอาหารหลักยังไง เพราะที่เคยกินที่ไทยก็มีเเต่อาหารหวานนี่หน่า จริง ๆ เสาร์เช้าเราต้องเข้าสัมมนาของที่เเลบก่อน เเต่ดันตื่นสาย เพราะว่ากว่าเราจะได้กลับบ้านก็เกือบตีหนึ่ง เลยโดดซะเลย พอสองสาวที่มาสมทบบ้านเพื่อนโยทีหลัง บ่นเราซะหูตึงว่าไม่ยอมเข้าฟังเค้าสัมมนา ฮาาาาา
อาหารอร่อยใช้ได้ นั่งกินไปพลางฟังเสียงมิอา (พี่สาวเพื่อนโย) เเละ น้องโตโยต้า พูดไม่หยุด เราก็เลยเล็มน้ำพริกที่มิอาบอกว่าสูตรเด็ดไปเรื่อย หาได้รู้ไม่ว่านรกจะมาเยือน จ๊ากกกก กินยังไม่ทันไรเป็นเีรื่อง เเขกตี้ทั้งวัน งานเข้าเลยคร้าบ เพราะว่าตอนเย็นเรามีปาร์ตี้ที่สองที่ร้านอาหารไทยซะด้วย
ส่วนขนมหวานตบท้าย เหมือนทับทิมกรอบที่ไทยเลย งานนี้เพื่อนโยลงมือทำเองทั้งหมด อร่อยอ่ะ
มิอาเห็นท่าทางเราจะไม่ไหว เลยขับรถมาส่งที่ร้านอาหารไทย เเต่ตอนนั้นเราหมดเเรงเเล้วจริง ๆ เหอ เหอ
ปาร์ตี้ที่สองตอนเย็นเป็นปาร์ตี้เลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ อาหารที่เราสั่งก็มีเเต่เผ็ด ๆ ส่วนของเด็ดเป็นส้มตำปลาร้า เราหม่ำไม่ได้อ่ะ เพราะว่าท้องไม่เป็นใจเลยจริง ๆ สรุปคืองานนี้ได้เเต่มองตาปริบ ๆ เล็ม ๆ ข้าวกินกะผัดผักเเละไข่เจียว เง้อออออ
Subscribe to:
Posts (Atom)