เมื่อวันอังคารที่เเล้วได้ไปโอกินาว่ามาเเบบผรีตลอดทริปเพราะไปสัมภาษณ์งานมา เเต่ไปด้วยความจำเป็นที่บอกว่าความจำเป็นก็เพราะไปเเล้วถึงเค้าเอา เราก็ไม่เอาเค้า ออกเเนวสวยเลือกได้เลยนะ ฮ่า ฮ่า จริง ๆ เเล้วเพราะว่าเซนเซเราไม่เห็นด้วยที่จะให้เราไปทำงานที่นี่ เหตุผลที่เเท้จริงเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไร เเต่ใรฐานะที่ดั้นด้นจะหางานทำที่นี่ในตำเเหน่งโพสต์ด๊อก อาจารย์มีอิทธิพลกับเรามาก เพราะฉนั้นครั้งนี้ก็ต้องยอมอาจารย์ไป
วันอังคารตื่นมาเตรียมตัวไปสนามบิน ทั้งวันมีไฟล์ไแโอกินาว่าเเค่ไฟลท์เดียว มานั่งคำนวณค่าใช้จ่ายทริปนี้ที่เค้าจ่ายให้เราก็ประมาณเเสนเยน (เอง) คือถ้าให้ออกเงินไปเองเนี่ยอย่าหวังเลย ไปถึงที่โอกินาว่าตอนบ่ายสองกว่าก็มีลุงเเทคมารับ ลุงเเทคเนี่ยเป็นฑูตสันไมตรีขั้นเยี่ยมเลยนะ คือพูดไม่หยุด เราก็กะว่าระหว่างนั่งรถเนี่ยจะเตรียมพรีเซนต์ซะหน่อย สรุปนั่งฟังลุงบรรยายตลอดทางจนถึงมหาลัย ฮ่วย
วินาทีเเรกที่เห็นหมาลัย โหหหห อย่างกะรีสอร์ทติดทะเล อย่างสวย เเต่มันไม่มีอะไรเลย เซเว่นยังไม่มี มองไปข้างหน้าเป็นทะเล ด้านหลังเป็นภูเขา เราคิดว่าที่ที่เราเรียบจบมาก็บ้านนอกเเล้ว มาเจอที่นี่ซุปเปอร์บ้านนอกยิ่งกว่า ถ้าไม่มีรถขับเนี่ย จะลำบากชีวิตมาก
เดินลากกระเป๋าไปเจอหน้าโปรเฟสเซอร์ที่สัะมภาษณ์เเบบหัวฟู เจอหน้าครั้งเเรกไม่ได้มห้เราหยุดหายใจเลย พูดตลอดหนึ่งชั่วโมงไม่มีหยุด ต่อด้วยพรีเซนต์งาน ที่ไม่มีใครรู้เรื่องงานเรา อย่างฮา พอเสร็จสัมภาษณ์เราก็ต้องหลับมาเชอินที่โรงเเรมก่อน ระหว่างทางไปโรงเเรม ลุงเเทคก็พยายามหว่านล้อมให้เราจ้างเเกนำเที่ยวโอกินาว่า เราลองคำนวณค่าเสียหายเเล้วคงไม่ต่ำกว่าสามหมื่นเยนเเน่นอน เลยบอกลุงว่าอากาศไม่ดีเเน่ เพราะงั้นหนูขอนอนนะคะ
โรงเเรมที่เค้าจองให้ดีมาก มีสองเตียงด้วย เเต่เรามาคนเดียวนิหน่า
ตอนเช้าเรารีบตื่นเเต่เช้ามาเดินถ่ายรูปตรงบริเวณหน้าโรงเเรม บรรยากาศดีมาก ท้องฟ้าเเจ่ม (หลังจากหลอกลุงเเทคไปเมื่อวาน) ระหว่างเดิน ๆ อยู่เจอปลาหมึกตัวยาวเกือบเท่าขาเรามาเกยตื้น ระหว่างยืนอึ้งได้ไม่นาน ลุงยุ่นเดินมาเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามว่าเน่าไหม พอเเกเห็นไม่เน่าเท่านั้นเเหละ หยิบไปเฉยต่อหน้าต่อตา (เราเจอก่อนนะลุง) เง้อ
เดินเล่นต่ออีกซักพัก เราก็เตรียมตัวกลับฮิโรชิม่า เรียกว่ามาเพื่อภารกิจอย่างเดียว เเถมเป็นภารกิจที่ไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยซิ เฮ้อ